สำหรับใครที่เป็นคอไวน์มือสมัครเล่นที่กำลังไล่ชิมไวน์พร้อมทั้งหาข้อแตกต่างของรสชาติไวน์แต่ละแบรนด์ ไปจนถึงไวน์แบรนด์เดียวกันแต่ผลิตคนละปี ค. ศ.
เพราะส่วนมากวินยาร์ดในเบอร์กันดีมีขนาดเล็ก และโดดเด่น หากเป็นวินยาร์ดขนาดใหญ่ก๋มักจะมีเจ้าของร่วมนับ 10 ราย ยกตัวอย่างวินยาร์ด Clos de Vougeot ที่มีพื้นที่ประมาณ 125 เอเคอร์ (316 ไร่) แต่มีเจ้าของจาก 80 กว่าไวน์เนอร์รี่ นั่นแสดงว่าจะมีไวน์ใช้ชื่อ Clos de Vougeot เดียวกัน วินยาร์ดเดียวกัน แต่มาจากคนละผู้ผลิตทั่วเบอร์กันดีเลยครับ ซึ่งแน่นอนว่าฉลากไวน์จะเน้นชื่อวินยาร์ดเด่นสุด บางขวดแทบจะไม่เห็นชื่อไวน์เนอร์รี่เลยล่ะครับ!
ทั้งความหายากและคุณภาพที่ยากจะเทียบเคียง โดยบนฉลากจะระบุเพียงชื่อวินยาร์ด เช่น Le Chambertin หรือ Romanee-Conti แล้วตามด้วย Grand Cru ไม่มีระบุ village นะครับ ซึ่งระบบการแบ่งเกรดของเบอร์กันดี เป็นเหตุทำให้ฉากไวน์เบอร์กันดี เข้าใจยากมากๆ เพราะส่วนใหญ่จะไม่ระบุชื่อ sub-region แต่จะระบุชื่อ village และชื่อวินยาร์ดไปเลย ซึ่งวินยาร์ด และหมู่บ้านของเบอร์กันดี มีหลากหลายเกือบ 700 กว่าชื่อ ซึ่งหากอยากจะอินกับไวน์เบอร์กันดี ก็จะต้องรู้จักชื่อหมู้บ้านและวินยาร์ดดังๆ เสียก่อน จึงนับว่าเป็นอะไรที่น่าปวดหัวระดับหนึ่งเลยครับ!
เบอร์กันดี เป็นหนึ่งในแคว้นไวน์แรกๆ ที่นักดื่มทั้งหลายรู้จัก ในขณะเดียวกันก็เป็นแคว้นสุดท้ายที่เซียนไวน์หลายๆ คนจะเข้าไปแตะ! แม้จะมีชื่อเสียงโด่งดัง แต่จะเข้าใจ Burgundy อย่างถ่องแท้เป็นสิ่งที่ยากมากๆ ด้วยพื้นที่ที่แบ่งย่อยจนไม่รู้ว่าจะย่อยอย่างไรดี ไปจนถึงการแบ่งเกรดไวน์ที่แสนยูนีค การเข้าใจไวน์เบอร์กันดี จึงเป็นดั่ง final boss แห่งโลกไวน์ และแน่นอนว่าจะทำให้คุณมองไวน์ได้อย่างสุนทรีย์ และลึกซึ้งมากขึ้นอย่างแน่นอน! คำถามไม่ได้อยู่ที่ 'ใคร' แต่อยู่ที่ 'ที่ไหน' ไม่ว่าแคว้นไหนๆ ก็ล้วนให้ความสำคัญกับ 'พื้นที่' หรือ 'terrior' อย่างมาก แต่ไวน์แมนกล้าออกปากว่าไม่มีแคว้นไหนให้ความสำคัญกับ Terrior เท่ากับเบอร์กันดีอีกแล้วครับ เนื่องจากเป็นแคว้นเล็กๆ วินยาร์ดแทบทั้งหมดถูกแบ่งโดยบาทหลวงย้อนกลับไปเป็น 100 ปี ระบบการผลิตไวน์ของเบอร์กันดีจึงจะเป็นระบบคล้ายกับแชมเปญ เรียกว่า Negociant นั่นคือมีพื้นที่ปลูกแยกกับพื้นที่ผลิตไวน์ (แยก Vineyard กับ Winery ออกจากกัน) ฉะนั้นภาพจำของไวน์เนอร์รี่ที่มีชาโตว์ใหญ่โต ครอบครองวินยาร์ดแห่งหนึ่งเพียงผู้เดียวแบบที่เห็นในบอร์โดซ์ หรือโรนวาเล่ย์ จะแทบใช้ไม่ได้กับเบอร์กันดีเลยครับ!
ไวน์เป็นอีกหนึ่งเครื่องดื่มที่แค่ยกขึ้นมาจรดปากก็ดูดี จึงเป็น 'drink of choice' ของผู้นำหลายๆ คนตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ไปดูกันเถอะครับว่าจะมีไวน์ตัวไหนบ้างที่สามารถปราบท่านผู้นำผู้เก่งกาจเหล่านี้ได้อย่างอยู่หมัด!
ทุกคนตกใจ ไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น จ้าวไห่ถึงกับสะดุ้ง ไวน์องุ่นขาวของ Egon Miller Schartzburg Grapes by Grape และยังเป็น Riesling Sweet White Wine อีกด้วย เขารู้นะว่าขวดหนึ่งราคาหลายหมื่น ราคาพอๆกับ Romanee-Conti เรียกว่า "King Of Riesling" ชื่อเสียงที่ดีงาม แต่ว่าเขาไม่ได้สั่งนี่! ถึงแม่ว้าจ้าวไห่จะมีเงินแค่ไหน แต่ก็ฟุ่มเฟือยขนาดนี้ไม่ได้นี่ "ขอโทษนะครับ แต่พวกเราไม่ได้สั่งพวกนี้"จ้าวไห่ยิ้มอ่อนๆ เสิ่นหยางที่อยู่ข้างกายก็อธิบายให้ทุกคนฟัง ทุกคนต่างก็เข้าใจแล้ว เหล้าพวกนี้ต่างก็ราคาขวดละหลายหมื่นทั้งนั้น! "อ้อ ทางร้านแถมให้ครับ"อู๋เต้าเหวินยิ้ม สายตามองไปที่หลี่โม่ แล้วพยักหน้าทักทายนิดหน่อย ทุกคนถึงกับตะลึง แถม? เหี้ย! จ้าวไห่ใหญ่โตขนาดนี้เชียว? ผู้จัดการของกวนเหลินกังส่งเหล้ามาให้เองกับมือ! อู๋เต้าเหวิน ชื่อเสียงและตำแหน่งของเขาในเมืองฮ่านนั้นไม่น้อยเลยนะ! แต่ว่า จ้าวไห่ไม่คิดอย่างนั้น ใบหน้าเขาเคร่งเครียด ขมวดคิ้ว ตัวเขาไม่ได้รู้จักกับผู้จัดการอู๋คนนี้นี่ "ผู้จัดการอู๋ขอถามหน่อยครับ ทำไมถึงแถมเหล้าให้พวกเรา? " จ้าวไห่คิดๆแล้วก็ลุกขึ้นถามอย่างมีมารยาท อู๋เต้าเหวินมองไปที่หลี่โม่แล้วพูดด้วยรอยยิ้ม "นี่ก็เป็นเพราะว่าคุณหลี่….. อู๋เต้าเหวินยังพูดไม่จบ ก็รับรู้ถึงสายตาเย็นชาของหลี่โม่ เขาก็รีบแก้คำพูด "ไม่มีอะไรครับ เชิญทุกคนตามสบาย" ในห้องอาหารต่างก็พูดคุยกัน ว่าใครมันใหญ่โตขนาดนี้ ถึงกับมีผู้จัดการของกวนเหลินกังมาส่งเหล้าให้เองกับมือ "ใครกัน?
ไวน์ที่แพงที่สุดในประวัติศาสตร์ คือ Pinot Noir! ไวน์ที่แพงที่สุดถูกขายในงานประมูลไวน์ ณ กรุงนิวยอร์ค ปี 2018 ซึ่งเป็นไวน์ Domaine de la Romanée-Conti's 1945 ซึ่งเป็นไวน์ที่ถูกเก็บไว้อย่างดีในคอเล็คชั่นของ Robert Drouhin เจ้าของแบรนด์ไวน์เบอร์กันดีดัง Maison Joseph Drouhin โดย 1 ขวด ขายได้ในราคา $558, 000 หรือประมาณ 18 ล้านบาท! ราคาสูงกว่าที่คาดไว้ถึง 5 เท่า! โดยเหตุผลที่ดาวเด่นในทุกงานประมูลคือ Pinot Noir จากเบอร์กันดี แต่ไม่ใช่วินเทจแชมเปญ หรือ 1st growth บอร์โดซ์ เพราะความหายากนั้นเองครับ อย่าง Romanee-Conti แต่ละวินเทจอาจจะมีซัก 600 ขวดเท่านั้น เนื่องจากปลูกยาก ให้ผลผลิตน้อย แถมยิ่งเอจแล้วจะยิ่งมีความซับซ้อน หรูหรา โรแมนติก โน้ตเอิร์ธตี้ ทรัฟเฟิล ในขณะที่ยังมีความฟรุ๊ตตี้ แอบซ้อนอยู่ในไวน์ จึงทำให้ aged Pinot Noir ครองตำแหน่งไวน์ที่แพงที่สุดชนิดทิ้งคู่แข่งแบบไม่เห็นฝุ่นเลยครับ! 4.
เมื่อวันที่ 12 เมษายน 2564 รูดี้ คูร์เนียวาน ถูกเจ้าหน้าที่สหรัฐคุมต้วมาที่สนามบิน Fort Worth International Airport เมืองดัลลัส ( Dallas) รัฐเท็กซัส แล้วไปถึงสนามบิน Soekarno-Hatta International Airport กรุงจาการ์ต้า อินโดนีเซีย รูปปัจจุบันของ รูดี้ คูร์เนียวาน ที่บอกว่าใหญ่ในวงการไวน์เพราะไม่มีใครรับประกันได้ว่า เขาจะกลับมาปลอมไวน์อีกหรือไม่? ขณะที่ผู้คร่ำหวอดในวงการไวน์บอกว่า เท่าที่ดูจากพฤติกรรมที่ผ่าน ๆ มาแล้วโอกาสที่เขาจะกลับมาเป็นไปได้สูง อย่างน้อยจากประสบการณ์หลาย ๆ อย่างก็ทำให้เขารู้ช่องทางมากขึ้น อยู่ที่ว่าจะกลับมาด้วยวิธีใด?
5 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือประมาณ 178 ล้านบาท 5. เครื่องเคลือบจีน แจกันจีนโบราณ สมัยจักรพรรดิ หย่งเจิ้ง ปี 1722-1735 ราคา: 4. 9 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือประมาณ 158 ล้านบาท 6. ไวน์ โฮรมาเน กงติ-เลอฮรัว ไวน์ โฮรมาเน กงติ-เลอฮรัว (Domaine Romanée Conti x 6 Methuselah) ราคา: 982, 343 ดอลลาร์สหรัฐฯ หรือประมาณ 31 ล้านบาท 7. Yamazaki วิสกี้ญี่ปุ่นอายุ 55 ปี ราคา: 795, 000 ดอลลาร์สหรัฐฯ หรือประมาณ 26 ล้านบาท 8. กระเป๋าหนังจระเข้ Hermès Himalaya กระเป๋าหนังจระเข้ Hermès Himalaya Niloticus Crocodile Retourné Kelly handbag ราคา: 437, 330 ดอลลาร์สหรัฐฯ หรือประมาณ 14 ล้านบาท
5 ลิตรชูขึ้นพร้อมตะโกนว่า.. "รูดี้... นายสุดยอดมาก! "