การเดินทางสำหรับใครที่จะตามรอยสาขานี้ก็อยู่ด้านล่างเลยค่ะ Ichiran Ramen สาขา Kashiwa: จากสถานีรถไฟ JR Kashiwa ให้ออกที่ทางออกหลัก Main entrance แล้วเดินไปตามถนนหลักมาทางทิศตะวันตกเรื่อยๆ ประมาณ 15-20 นาที ก็จะเจอร้านอยู่ติดถนนใหญ่ค่ะ (สาขานี้มีที่จอดรถด้วยประมาณ 15 คันนะ ใครเช่ารถมาขับก็เลี้ยวเข้ามาจอดได้สบายๆค่า) อ้อ! สาขานี้ เปิด 24 ชั่วโมงเหมือนหลายๆสาขาในโตเกียวตามเขตหลักๆด้วย เรียกได้ว่าหิวเมื่อไหร่ก็แวะมาได้ตลอดค่า เมื่อเดินเข้ามาปุ๊บ คุณจะเจอกับตู้สั่งเมนูที่มือใหม่แสนจะมึนงงและงงงวย ว่าอีนี่มันอะไร๊!! เมนูอาหารก่อนเดินเข้าร้านเหรอ?... หากท่านเจอตู้แบบนี้อยู่หน้าร้านอาหารที่ท่านกำลังเดินเข้าไปทาน... อย่าเมินน้องเขานะคะ! เพราะเราจะต้องสั่งอาหารผ่านตู้นี้เท่านั้นล่ะค่ะ!! ขอให้ท่านจำไว้นะคะ ว่าร้านนี้จะเป็นการสั่งอาหารแบบ "ตู้กด" ค่ะ คือจะไม่มีพนักงานมารับออเดอร์ท่านนะคะ แต่จะมารับตั๋วจากตู้กดของทำนแล้วนำไปปรุงอาหารตามเมนูที่ท่านกดมาจากตู้ค่ะ โดยวิธีการสั่งของร้านนี้นั้น ค่อนข้างง่ายตรงที่ว่าราเมนของที่นี่จะมาเพียงรสชาติเดียวคือซุปกระดูกหมูทงคตสึ เพราะฉะนั้นท่านไม่ต้องวิงเวียนศีรษะว่าฉันจะกดผิดไปได้รสแปลกๆมาหรือเปล่า แต่ร้านนี้เพิ่ม add on ขึ้นมาคือเราสามารถสั่งได้ว่าจะเอาราเมนเพียวๆแล้วเติมหน้าเอง หรือจะเอาราเมนครบเครื่องจัดเต็มมาเลย จะเอาเส้นธรรมดาหรือเพิ่มเส้นพิเศษ หรือแม้กระทั่งหากเราอยากได้เครื่องเคียงของราเมนเพิ่มเติม เราก็กดสั่งเพิ่มได้ค่ะ!
ราเมงข้อสอบของแท้ Ichiran Ramen สาขา Ueno - YouTube
กินอะไรดี ซื้อกินดีกว่า [15] นอกจากเที่ยวแล้ว เรื่องกินก็ยังคงเป็นเรื่องใหญ่สำหรับผมเสมอ เวลาดีใจ เสียใจ หมดหวัง ก็กิน ๆ เข้าไปก็ช่วยให้อารมณ์ดีได้สักนิด เข้ากับ concept ของเว็บก็คือจะพาไป กิน เที่ยว ช็อป แล้วยังไงหรอ ก็พาไปกินที่ญี่ปุ่นอีกแล้วไง ไปกิน Ichiran Ramen ราเมนข้อสอบ Ichiran Ramen ราเมนข้อสอบ ที่แสนโด่งดังกังวาลไกล (ผมนี่ชอบรีวิวร้านดังเนอะ) มีสาขามากมาย ซึ่งผมจะรีวิวสาขา ชินจุกุ (Shinjuku) ครับ ดูแผนที่ได้ท้ายเรื่องเช่นเคยครับ เวลาที่สาขานี้คนเยอะอยู่ในช่วงเวลาประมาณ 12. 00 – 23. 00 น. รอประมาณ 20 – 40 นาที ถ้าเอาแบบเยอะสุด ๆ คือช่วง 19. 00 – 22. รอ 1 ชั่วโมงขึ้นไป ถ้าเป็นวันศุกร์เสาร์อาทิตย์ก็จะยิ่งหนักไปใหญ่ บวกเพิ่มจากที่กล่าวข้างต้น 30 นาทีถึง 2 ชั่วโมงแล้วแต่ดวงครับ ที่สาขาชินจุกุ ร้านจะอยู่ชั้นล่างครับ คนเยอะเหมือนกัน แต่ในฐานะที่เราเป็นนักท่องเที่ยว สบายครับ ร้านเปิด 24 ชั่วโมง ไปเลยครับ ช่วง 06. 00 – 10.
อีกทั้งยังมีของหวานให้ท่านสามารถลองทานตบท้ายได้ด้วย เมื่อท่านแพลนเมนทุกอย่างในหัวเรียบร้อยแล้ว... ถึงเวลากดสั่งค่ะ! โดยการสั่งนั้นท่านจะใส่แบงค์ใหญ่ไปก่อนแล้วรอทอน หรือจะคำนวณบวก ลบ คูณ หารให้พอดีแล้วหยอกเหรียญก็ย่อมได้ ก่อนหน้านั้นนานะเจอลูกค้าที่น่าจะเพิ่งมาครั้งแรกแล้วเขาสั่งที่ละเมนู หยอดเหรียญที่ละอย่างๆ ซึ่งทำให้เสียเวลาและคนข้างหลังรอคิวนานด้วย ซึ่งหากใครตกเลข (แบบเค้าเอง) ก็แนะนำให้เสียบแบงค์ใหญ่ใส่เข้าไป กดสั่งๆๆแล้วรอเงินทอนเลยค่ะ อิอิ <3 พอตัดสินใจได้ปั๊บ เห็นที่นั่งว่างปึ้บ หย่อนก้นลงนั่งป้าบไปเลยยยยยยย หุหุหุ... และในส่วนของที่นั่งร้านราเมนข้อสอบนั้น............... อั๊ยย่ะ!!! เป็นที่นั่งเดี่ยว มีฉากกั้นกลางระหว่างเราสอง อีกทั้งมีม่านไม้ไผ่ปิดไว้เล็กน้อยเพื่อไม่ให้พนักงานเสิร์ฟเห็นหน้าลูกค้าด้วยนะคะ เป็นสถานที่ทานอาหารสำหรับคนชอบความเป็นส่วนตัวแบบสุดๆไปเลย และต่อจากนี้... ท่านจะได้เข้าใจถึงคำว่า 'ราเมนข้อสอบ' ใน สาม.... สอง.... หนึ่ง.... จิ้งจกยัดไส้! แฮร่!!!..... เอ้า เวรกรรม นั่น สี่ ห้า หกเหรอ ขอโทษๆ ฮ่าาาา โอเค เราจะไม่เสิร์ฟมุกแป้กๆในคุณผู้อ่านที่น่าเลิฟละ จากในภาพ คุณผู้อ่านจะเห็นว่าตรงกลางโต๊ะจะมีกระดาษ ปากกาและตะเกียบวางไว้อยู่ นี่จะเป็นการจำลองเหตุการณ์การสั่งราเมนของท่านว่าท่านอยากได้ราเมนแบบไหนในสไตล์ของท่านเอง เสมือนท่านนั่งทำข้อสอบวิชาหินๆโดยเป็นการตอบคำถามโจทย์จากมันสมองของท่านเองและท่านไม่ต้องการให้ใครมาแอบดูคำตอบของท่านด้วย ฉะนั้นแน่นอนว่าราเมนของท่านจะเป็นแบบไหน จะไม่มีใครรู้เลยยกเว้นตัวของท่านเอง (อ้อ เด็กเสิร์ฟและพ่อครัวไม่นับนะ! )
ก็กลัวเขาจะเขวี้ยงทัพพีใส่เอา ดีที่รสชาติน้ำซุปจัดว่าอร่อยเลยทานต่อได้ไม่มีปัญหา แต่อนาคตอาจต้องรักษาไตกันยาวๆไปเลย... ในส่วนของเส้นนั้น.... ถือว่าไม่เลวนะคะ เส้นคล้ายๆบะหมี่เหลืองกลมบานเราแต่เส้นของที่นี่จะออกแนวเส้นเล็กๆผอมๆ แล้วด้วยความที่เราเลือกเส้นระดับนุ่มๆ เวลากินนี่ใช้ลิ้นดุนนิดเดียวก็สลายแล้ว โอย ฟินมากค่าาาาาา!!! สำหรับใครที่มาสองคนไม่ว่าจะเพื่อน แฟน สามี กิ๊ก ชู้ ท่านก็ไม่จำเป็นต้องอัดอั้นตันใจนะคะเพราะฉากกั้นสามารถพับเก็บได้ค่ะ! อิอิ สะดวกสบายใช่มั้ยล่ะ เอาล่ะ ได้เวลาเม้ามอยฝอยทองแล้วค่ะ อิอิ หากใครชอบทานเผ็ด ก็เลือกใส่พริกได้นะคะ ถ้วยนี้เป็นของเพื่อนนานะเอง แต่เห็นนางบอกว่าพริกไม่เผ็ดเลยนะ ยังไงถ้าใครแวะผ่านก็ลองแวะทานดูได้นะคะว่าเผ็ดมั้ย.... ส่วนตัวนานะของผ่านค่ะ เพราะทานเผ็ดไม่ได้เลย T-T แน่นอนว่า เมื่อของคาวผ่านไป ของหวานต้องผ่านมาสิคะ! นานะได้ซื้อตั๋วของหวานไว้ด้วย และถ้าเรามีของหวาน เราก็จะมีถาดสีเงินเพิ่มขึ้นมาเพื่อเป็นการบ่งบอกว่าโต๊ะนี้มีของหวานค่ะ เมื่อต้องการทาน ให้เราวางถาดสีเงินนี้บนกล่องแดงๆที่อยู่ติดกัน แล้วกดปุ่มกระดิ่งบนกล่องได้เลยค่ะ พนักงานจะเดินมาแล้วจะทราบทันทีว่าโต๊ะนี้หิวของหวานแล้ว พนักงานก็จะเตรียมตัวเสิร์ฟของหวานให้ทันทีค่ะ ของหวานของที่นี่ก็คือ"พุดดิ้ง มัชฉะ ชาเขียว"นั่นเองค่ะ โดยจะมีซอสชาเขียวมาให้ราดลงบนพุดดิ้งด้วยนะคะ โอยยย ดึ๋งดั๋งๆ แต่ในส่วนของรสชาติ..... ขอบอกว่าเขามาไกลเกินคำว่าของหวานมากๆค่ะ...