ส่วนผสมที่เตรียม พริกสด 10-25 เม็ด มะเขือเครือ 5-6 ลูก กระเทียม 1 ลูก มะกอก 1 ลูก มะนาว 1 ลูก เส้นมะละกอ ประมาณ 2 กำมือ เม็ดกระถิน ประมาณ ครึ่งถ้วยนํ้าพริก ปูดอง 2-3 ตัว นํ้าปลาประมาณ 2-3 ทัพพี ตัวปลาร้า 1-2 ตัว ผงชูรส 1 ช้อนชา ตามใจ นํ้าตาล 1 ช้อนชา ตามใจ นํ้าปลา 1 ช้อนโต๊ะ วิธีทำ … เตรียมครกและสากให้พร้อม 1. ใส่พริกสดประมาณ 10-25 เม็ด 2. ใส่กระเทียม 3-4 เม็ด 3. ใส่ผงชูรส 1 ช้อนชา ตามใจชอบ 4. ใส่นํ้าตาล 1 ช้อนชา ตามใจ …ตำให้ละเอียด ให้เข้ากัน 5. ใส่มะเขือเครือ หั่นด้วย มะเขือเครือ 5-6 ลูก 6. ใส่มะกอก หั่นด้วย 1 ลูก 7. ใส่มะนาว หั่นด้วย 1 ลูก …ตำให้ละเอียด ให้เข้ากันอีก 8. ใส่ปูดอง 2-3 ตัว (ไม่ต้องก็ได้นะ) 9. ใส่ตัวปลาร้า 1-2 ตัว (ไม่ต้องก็ได้นะ) 10. ใส่นํ้าปลา 1 ช้อนโต๊ะ ตามใจชอบ 11. ใส่นํ้าปลาประมาณ 2-3 ทัพพี …ตำให้เข้ากันอีก 12. ใส่เส้นมะละกอ ประมาณ 2 กำมือ …ตำให้เข้ากันอีก 13. ใส่เม็ดกระถิน ประมาณ 2 ช้อนโต๊ะ …ตำให้เข้ากันอีก 14. ตักใส่จาน สูตรอาหารโดย: ยายป่วง บ้ากระเทิน สมุนไพรใบยอรักษาอาการปวดข้อ ปวดเข่า สุดยอดสมุนไพรไทย 5 อาหารชะลอความแก่ ยิ่งกินยิ่งดูเด็กกว่าวัย เหมาะสำหรับคนไม่อยากแก่ รู้สู้โรค: โภชนาการกับโรคความดันโลหิตสูง วิธีลดพุง ให้ถูกทาง
04 มิลลิกรัม วิตามินบี2 0. 04 มิลลิกรัม วิตามินบี3 0. 4 มิลลิกรัม% ร้อยละของปริมาณแนะนำที่ร่างกายต้องการในแต่ละวันสำหรับผู้ใหญ่ (ข้อมูลจาก: Philippine Herbal Medicine) แหล่งอ้างอิง: วิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี, Philippine Herbal Medicine, USDA Nutrient database เรียบเรียงข้อมูลโดย ฟรินน์ (ไม่อนุญาตให้คัดลอกเนื้อหาไม่ว่าส่วนหนึ่งส่วนใด)
ศ 2451 แต่ในนั้นไม่ได้มีการพูดถึงส้มตำไว้เลย วรรณกรรมที่พูดถึงส้มตำก็คือ ตำรับสายเยาวภา ของพระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าเยาวภาพงศ์สนิท ที่มีกล่าวถึงข้าวมันส้มตำที่เสิร์ฟเป็นชุดๆ รสชาววังนุ่มนวลไม่จัดจ้าน แต่เป็นอาหารที่ทานกันในโอกาสพิเศษซะมากกว่า ดังนั้นส้มตำจึงไม่ได้เป็นอาหารเก่าแก่โบราณอย่างที่หลายๆคนเข้าใจ อาหารจานแซ่บนี้น่าจะมีอายุราวๆ 60 ต้นๆ หลังจากสิ้นสุดสงครามครั้งที่ 2 ก็มีการสร้างสนามมวยราชดำเนินขึ้นมาเมื่อ พ. 2488 ซึ่งตอนนั้นชาวอีสานก็ได้มีการอพยพมาอยู่กรุงเทพกันมากขึ้น โดยมีการปลูกสร้างบ้านเรื่อนหรืออาศัยกันอยู่แถวนั้นจนกลายเป็นแหล่งชุมชนของคนอีสาน คน กรุงเทพสมัยนั้น ไม่ได้หาอาหารรสแซ่บของชาวอีสานกันได้ง่ายๆ เหมือนในปัจจุบัน ถ้าอยากทานต้องเดินทางมาที่แถวๆ สนามมวยราชดำเนินเท่านั้น คนที่จะพอยืนยันประวัติส้มตำได้ว่า ในราว พ. 2493 เริ่มมีการขายส้มตำกันแล้วคือคุณด้วงทอง เจ้าของร้านส้มตำไก่ย่างผ่องแสง ซึ่งตอนนั้นทำงานเป็นลูกมือตำส้มตำในร้านเฟื่องฟู ได้รับค่าจ้างเดือนละ 50 บาท พอขายดิบขายดีนายจ้างก็เพิ่มเงินเดือนให้เรื่อยๆเป็นหลายร้อยบาท จนคุณด้วงทองเก็บหอมรอมริบจนตั้งตัวได้ เมื่อปี พ.
ผลดิบ และผลสุก ใช้รับประทานเป็นผลไม้แทนผลไม้อื่นที่ให้รสเปรี้ยว ทั้งรับประทานแบบจิ้มพริกเกลือหรือจิ้มน้ำปลา โดยผลดิบจะมีรสเปรี้ยวอมฟาด ส่วนผลสุกจะมีรสเปรี้ยว และกระตุ้นการหลั่งน้ำลาย 3. เนื้อผลสุกผสมน้ำตาล แล้วปั่นเป็นน้ำผลไม้ดื่ม 4. ผลอ่อนที่เมล็ดยังไม่มีเสี้ยน นำมาดอกเป็นมะกอกดอง 5. ยอดอ่อนมีสีแดงรื่อหรือเขียวอมแดง ไม่มีเสี้ยน มีรสเปรี้ยวอมฟาด มีกลิ่นหอม นิยมรับประทานเป็นผักกับน้ำพริก ซุบหน่อไม้ และเมนูลาบต่างๆ 6. รากมะกอกในระยะต้นอ่อนมีลักษณะคล้ายหัวมัน ขนาดใหญ่ เนื้อมีสีขาว มีรสหวาน นิยมขุดมาปอกเปลือกรับประทาน ทั้งนี้ หากขุดในระยะที่ต้นใหญ่จะไม่พบรากดังกล่าว ระยะที่เหมาะสม คือ ต้นมะกอกสูงไม่เกิน 30-60 เซนติเมตร 7. ยางจากต้นที่เกิดจากบาดแผลของด้วงหรือแมลง มีลักษณะเป็นเมือกใสสีแดงอมน้ำตาล สามารถใช้เป็นกาวติดของได้ 8. ไม้มะกอก เป็นไม้เนื้ออ่อน แก่นไม่แข็งมาก แปรรูปง่าย ใช้แปรรูปเป็นเฟอร์นิเจอร์หรือเครื่องเรือนได้ แต่ไม่เหมาะสำหรับไม้ก่อสร้าง 9. ไม้มะกอกใช้สับเป็นเยื่อไม้สำหรับผลิตกระดาษ 10.
มะกอกอุดมด้วยวิตามินซีทำให้มีฤทธิ์เป็นยาฝาดช่วยแก้เลือดออกตามไรฟัน ช่วยดับกระหายน้ำ ทำให้ชุ่มคอ และสามารถบรรเทาอาการหวัดได้ทุกชนิด 2. มะกอกมีแคลเซียมสูง จึงช่วยรักษาและป้องกันโรคที่ขาดแคลซียมได้เป็นอย่างดี เนื่องจากมะกอกสุกจะมีรสเปรี้ยวอมฝาด 3. สรรพคุณมะกอกเป็นแหล่งของสารต้านอนุมูลอิสระหลากหลายชนิดในปริมาณสูง ซึ่งจะเป็นผลดีช่วยให้ระบบภูมิคุ้มกันภายในร่างกายทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ 4. มะกอกมีสรรพคุณช่วยบำรุงสายตา ป้องกันความเสื่อมของดวงตา ลดโอกาสจะเกิดโรคเกี่ยวกับดวงตา แก้โรคสายตามัวในเวลากลางคืน รวมทั้งทำให้เส้นผมและผิวพรรณแข็งแรง 5. มะกอกมีประโยชน์ต่อระบบการย่อยอาหาร ทำให้อาหารย่อยได้ดีขึ้น รักษาโรคกระเพาะอาหาร ช่วยแก้อาการที่อาจเกิดขึ้นระหว่างกินหรือหลังอาหาร เช่น แน่นท้อง แสบกลางหน้าอก คลื่นไส้ ฯลฯ และช่วยบำรุงธาตุ 6. ประโยชน์ของมะกอกใช้เป็นยาหยอดหูเมื่อมีแมลงเข้าหู แก้อาการปวดหูได้ โดยการหยอดน้ำมันมะกอก (หรือจะใช้น้ำคั้นจากใบมะกอกก็ได้) ลงไปในหู จะทำให้แมลงตายและค่อยๆ ลอยขึ้นมาเอง 7. มะกอกมีสรรพคุณแก้ร้อนใน ช่วยลดอุณหภูมิในร่างกายที่สูงลงได้ ขับปัสสาวะ แก้โรคหอบและอาการสะอึก โดยให้นำเมล็ดมะกอกไปเผาไฟแล้วแช่น้ำดื่ม 8.
เลือกพริกหนุ่มที่สดสีเขียว ไม่แก่หรืออ่อนเกินไป รสชาติเผ็ดกำลังดี 2. เตรียมเครื่องปรุงรส ทำน้ำพริกมะกอก ได้แก่ น้ำปลา น้ำตาลปิ๊บ มะกอกสุก น้ำปลาร้าต้มสุก หอมแดง กระเทียม เกลือป่น เตรียมไว้ 3. จากนั้นตั้งกระทะให้ร้อน ใช้ไฟแรง จากนั้นนำหอมแดง กระเทียม พริกหนุ่ม ลงไปย่าง โดยที่ไม่ต้องแกะเอาเปลือกออก 4. จากนั้นย่างพริกหนุ่ม หอมแดง กระเทียม ย่างให้สุกหอม สุกดีถึงข้างใน 5. เมื่อย่างพริกหนุ่ม หอมแดง กระเทียม ย่างสุกดีแล้ว จากนั้นนำมาปอกเอาเปลือกออก เตรียมไว้ 6. จากนั้นนำพริกหนุ่ม หอมแดง กระเทียมย่างสุก ใส่ลงในครก ตามด้วยใส่เกลือป่นลงไป แล้วตำๆ ให้ละเอียด 7. จากนั้นปอกเปลือก มะกอกออก แล้วหั่นเอาแต่เนื้อมะกอก ใส่ลงไป ตำผสมให้เข้ากันดี 8. จากนั้นใส่เครื่องปรุงรสลงไป ใส่น้ำปลา น้ำปลาร้าต้มสุก น้ำตาลปิ๊บ จากนั้นตำคนๆ คลุกเคล้า ให้ส่วนผสมเข้ากันดี พร้อมจัดเสิร์ฟ 9. จัดเสิร์ฟ น้ำพริกมะกอกแซบๆ รสชาติเข้มข้น หอมอร่อยจัดจ้าน ได้รสชาติความอร่อย ของมะกอก หอมอร่อยเข้ากัน เสิร์ฟเคียงกับผักสดต่างๆ ผักต้มต่างๆ ไข่ต้ม อร่อยเข้ากัน 10. น้ำพริกมะกอกแซบๆ รสชาติเข้มข้น หอมอร่อยจัดจ้าน ได้รสชาติความอร่อย ของมะกอกสุก หอมอร่อยเข้ากัน เสิร์ฟเคียงกับผักสดต่างๆ ผักต้มต่างๆ ไข่ต้ม อร่อยเข้ากัน น้ำพริกมะกอกแซบๆ รับประทานกับข้าวสวยร้อนๆ หรือข้าวเหนียว รสชาติเข้มข้น หอมอร่อยจัดจ้าน ได้รสชาติความอร่อย ของมะกอกสุก หอมอร่อยเข้ากัน เสิร์ฟเคียงกับผักสดต่างๆ ผักต้มต่างๆ ไข่ต้ม อร่อยเข้ากันค่ะ t155
2501 จึงได้ซื้ออาคารพานิชย์แล้วกลายมาเป็นร้านส้มตำไก่ย่างผ่องแสงจนกระทั่งทุกวันนี้ ที่มา: นิตยสารศิลปวัฒนธรรม ฉบับประจำเดือนกุมภาพันธ์ 2555
77 กรัม โปรตีน 17 กรัม ไขมัน 2. 856 กรัม คาร์โบไฮเดรต 29 กรัม กาก 5. 75 กรัม ใยอาหาร 2. 67 กรัม แคลเซียม 163. 4 มิลลิกรัม ฟอสฟอรัส 190. 36 มิลลิกรัม เหล็ก 24. 27 มิลลิกรัม เบต้า-แคโรทีน 473. 9 ไมโครกรัม วิตามินเอ 12243 IU วิตามินบีหนึ่ง 0. 552 มิลลิกรัม วิตามินบีสอง 0. 5 มิลลิกรัม ไนอาซิน 5. 545 มิลลิกรัม วิตามินซี 162 มิลลิกรัม
หน้าหลัก > ตำสะตอหมึกทาโกะ น้ำปลาร้านัวๆเม็ดสะตอใหญ่ๆ|ฮ่องป่ง Hongpong Channel > เรื่องย่อ ห้ามพิมพ์ซ้ำโดยไม่ได้รับอนุญาตจากครีเอเตอร์ วีดีโอแนะนำสำหรับคุณ ตำกุ้งสดเผ็ดๆ เนื้อกุ้งเด้งหวาน มะระซดซดน้ำนัวๆกรอบ เเซ่บสะใจ|ส้มซ่าพาเเซ่บ กินข้าวป่า แกงหน่อไม้สดๆอาหารป่าธรรมชาติห้วยบังฮวก แม่โขง ออนทัวร์ 0 วิว หนวดหมึกยักษ์กรอบ ราดน้ำจิ้มปลาร้า เเกล้มขนมจีนเหนียวนุ่ม มะระขมๆ เผ็ดเเซ่บนัวถึงใจ|ส้มซ่าพาเเซ่บ ตำซั่วหมึกสายเผ็ดนัวร์กรุปกรอบ ขนมจีนเหนียวนุ่มเเกล้มมะระผักสด|ส้มซ่าพาเเซ่บ เดินไปเคาะประตูบ้านคนอื่น แล้วขอข้าวกินสรุปคืออิ่มจนจุก!
มะกอกป่า หรือ นิยมเรียกว่า มะกอก (Hog plum) ถือเป็นผลไม้ป่าที่นิยมอย่างมากสำหรับเมนูที่ต้องการรสเปรี้ยว โดยเฉพาะส้มตำ ต้มยำ ยำหรือก้อยต่างๆ เพราะให้รสเปรี้ยวพอเหมาะ อีกทั้งมีรสหวาน กระตุ้นน้ำลาย และการยากอาหารได้อย่างดี • วงศ์: ANACARDIACEAE • ชื่อวิทยาศาสตร์: Spondias pinnata Kurz.