5) สาวไทยก็ใช่ย่อย มีมากกว่าร้อยละ 50 ที่ตอบว่าเคยได้รับผลข้างเคียงจากการใช้เครื่องสำอาง • สิ่งที่ผู้บริโภคเกินครึ่งเชื่อว่าเป็นสาเหตุของการเกิดอาการแพ้ คือสารเคมีในเครื่องสำอาง เหตุผลรองลงมาได้แก่ผลิตภัณฑ์ ไม่เหมาะกับสภาพผิว • สาวอินเดียทุกคนที่ตอบแบบสอบถามเชื่อว่า สาเหตุของอาการแพ้มาจากสารเคมีในผลิตภัณฑ์ ในขณะที่สาวไทย ร้อยละ 71 เชื่อเช่นนั้น ส่วนที่เหลือเชื่อว่าเป็นเพราะไม่เหมาะกับสภาพผิวของตนเอง • ร้อยละ 45 ของคนไทยที่ตอบ บอกว่าหลีกเลี่ยงผลข้างเคียงด้วยการล้างหน้าให้สะอาด และสาวไทยเป็นกลุ่มที่ตอบว่าใช้ เครื่องสำอางที่มีส่วนผสมจากธรรมชาติสูงที่สุดเป็นอันดับสอง (ร้อยละ 30. 3) รองจากอินเดีย (ร้อยละ 31. 2) ความรู้เรื่องพาราเบนส์ • ร้อยละ 28 ของผู้บริโภคที่ตอบแบบสอบถามทราบว่าในเครื่องสำอางมีพาราเบนส์เป็นส่วนประกอบ • ผู้ตอบแบบสอบถามกลุ่มที่รู้จักพาราเบนส์น้อยที่สุด ได้แก่ผู้บริโภคจากมองโกเลีย ไทย และอินเดีย (มีผู้รู้ว่ามีพาราเบนส์ในเครื่องสำอางเพียงร้อยละ 4. 3 ร้อยละ 16 และร้อยละ 14. 7 ตามลำดับ) • ผู้บริโภคส่วนใหญ่ (ร้อยละ 85) ไม่ทราบว่าพาราเบนส์เป็นหนึ่งในสารรบกวนการทำงานของฮอร์โมน • สามประเทศที่มีการรับรู้ว่าพาราเบนส์เป็นสารรบกวนการทำงานของฮอร์โมนน้อยที่สุดได้แก่ เกาหลี มองโกเลีย และไทย (ร้อยละ 4.
ประชาสัมพันธ์ 13 ส. ค. 2562 เวลา 14:32 น.
ไม่ใช่นะคะ คือ สารกันเสียที่ใช้สำหรับเครื่องสำอางมีหลายชนิด ไม่ใช่ว่าเอะอะใส่พาราเบนอย่างเดียว แค่ไม่ได้ใช้ตัวกลุ่มพาราเบนเท่านั้น รู้จักศัพท์ที่อยู่บนฉลากskincare และเครื่องสำอางไป 1 คำ แล้วนะคะ ยังมีอีกหลายคำที่เราเจอบ่อยและส่งผลต่อการเลือกซื้อมาใช้ด้วยค่ะ #พาราเบน #paraben #parabenfree #พาราเบนฟรี #สารกันเสีย #skincare #เครื่องสำอาง
เนื่องจากมีการใช้พาราเบนอย่างมากมายในเกือบทุกสินค้า ทั้งอาหาร ยา เครื่องสำอาง และเครื่องอุปโภคบริโภค ทำให้นักวิทยาศาสตร์การแพทย์บางส่วนเป็นห่วงถึงความปลอดภัยในผู้บริโภคที่ใช้เป็นประจำ แต่ปัจจุบันยังไม่มีข้อมูลชัดเจนที่ระบุว่ามีการสะสมในร่างกาย เนื่องจากสารชนิดนี้ถูกดูดซึมได้และจะถูกย่อยสลายและกำจัดออกจากร่างกายได้ 2. ปริมาณที่ผสมในเครื่องสำอาง อาหาร หรือยา จะเป็นเปอร์เซ็นต์ต่ำมาก จึงไม่มีนัยสำคัญที่จะก่อให้เกิดปัญหาความเป็นพิษได้ 3. นักวิทยาศาสตร์บางกลุ่มได้ทำการวิจัยและพบว่าอาจจะมีความเกี่ยวพันกับการเป็นต้นเหตุของสารก่อมะเร็งเต้านม เนื่องจากมีการผสมพาราเบนในผลิตภัณฑ์ใต้วงแขน ขณะนี้มีการขยายวงการทำวิจัยเกี่ยวกับเรื่องนี้อย่างมาก แต่นักวิทยาศาสตร์ กลุ่มอื่นๆยังมีข้อโต้แย้งว่าโอกาสเป็นสารก่อมะเร็งนั้นน้อยมาก 4. เช่นเดียวกับข้อ 3 มีการวิจัยถึงผลของสารพาราเบนที่มีคุณสมบัติคล้ายโฮโมนเอสโตรเจนของ ผู้หญิง แต่ทดลองแล้วมีความแรงน้อยกว่าโฮโมนธรรมชาติถึง 100, 000 เท่า จึงไม่น่ากังวล ข้อถกเถียงถึงความปลอดภัยในการใช้สารพาราเบนเป็นสารกันเสีย ทำให้หลายบริษัทยักษ์ใหญ่เริ่มหันมาใช้สารสกัดจากธรรมชาติ เช่น จากเมล็ดองุ่น ซึ่งจะได้สารเทียบเคียงกับ methylparabens อย่างไรก็ตามสำนักงาน อย.
หน้าแรก (Butylparaben) บูทิลพาราเบน คืออะไร?
8 ร้อยละ 7. 5 และร้อยละ 9 ตามลำดับ) • โดยรวมแล้ว ร้อยละ 57.
คนไทยเราอาจยังไม่คุ้นเคยกับสารที่มีชื่อว่า "พาราเบนส์" (Paraben) แต่ในต่างประเทศโดยเฉพาะประเทศเกาหลีและอเมริกา กำลังให้ความสนใจกับผลิตภัณพ์ที่มีส่วนผสมของสารนี้ เช่น แชมพู สบู่ ผลิตภัณฑ์ระงับกลิ่นกาย ครีมกันแดด เครื่องสำอาง รวมถึงผลิตภัณฑ์สำหรับเด็ก พาราเบนส์ (Paraben) คืออะไร พาราเบนส์เป็นสารกันเสียที่ใช้ต้านการเจริญเติบโตของเชื้อจุลินทรีย์อย่างแบคทีเรียและเชื้อราได้ดี ได้รับการยอมรับว่าปลอดภัยที่จะผสมในผลิตภัณฑ์ทั้งอาหาร ยา และเครื่องสำอางทุกชนิด แต่ก็ยังมีข้อสงสัยว่าหากใช้ไปนานในระยะเวลาต่อเนื่อง จะส่งผลเสียต่อร่างกายคนเราหรือไม่ ข้อถกเถียงเรื่องความปลอดภัย 1. เนื่องจากมีการใช้พาราเบนส์อย่างมากมายในเกือบทุกสินค้า ทั้งอาหาร ยา เครื่องสำอาง และเครื่องอุปโภคบริโภค ทำให้นักวิทยาศาสตร์การแพทย์บางส่วนเป็นห่วงถึงความปลอดภัยในผู้บริโภคที่ใช้เป็นประจำ แต่ปัจจุบันยังไม่มีข้อมูลชัดเจนที่ระบุว่ามีการสะสมในร่างกาย เนื่องจากสารชนิดนี้ถูกดูดซึมได้และจะถูกย่อยสลายและกำจัดออกจากร่างกายได้ 2. สารparabensที่นิยมใช้กันมากในเครื่องสําอางคือ methylparaben, propylparaben และ butylparaben ส่วนใหญ่ในเครื่องสําอางแต่ละตํารับ จะใช้สาร parabens ร่วมกันหลาย ชนิด เพื่อให้สามารถยับยั้งจุลินทรีย์ได้หลายกลุ่ม 3.
พาราเบน แค่ได้เห็นหรือได้ยินชื่อก็ทำหลายคนรู้สึกกลัวขึ้นมาทันที เพราะได้ชื่อว่าเป็นส่วนผสมอันดับต้นๆ ในสกินแคร์ที่อันตรายต่อผิว สามารถทำให้เกิดอาการระคายเคืองผิว ถ้าเห็นผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของพาราเบนเมื่อไหร่ ทุกคนมักจะพร้อมใจกันบอกว่า อย่าใช้เลย มันไม่ดี หนีไปปป~ แต่เดี๋ยวก่อนไอที่เค้าว่ากันว่าพาราเบนคือตัวร้ายเนี่ย มันร้ายจริงมั้ย? ถ้าเป็นอันตรายจริงแล้วทำไมยังสามารถใส่มาในสกินแคร์ได้อยู่อีกล่ะ? หรือความจริงแล้วพาราเบนอาจถูกใส่ร้ายหรือเปล่า? ไปหาคำตอบพร้อมๆ กัน! พาราเบน คือสารอะไรกันแน่ ทำไมสาวๆ ถึงได้กลัวกันนัก? พาราเบน คือ สารกันเสียหรือสารกันบูดชนิดหนึ่ง ที่ได้รับการรับรองจากกระทรวงสาธารณสุขว่าเป็นสารที่ปลอดภัย ไม่ก่อให้เกิดสารพิษต่อร่างกาย และต้องใช้ในปริมาณที่กำหนดเท่านั้น คือไม่เกิน 0.
สกินแคร์ เครื่องสำอางก็เหมือนกับอาหาร และ ของใช้อื่นๆ ที่มีอายุการใช้งานที่กำจัด เมื่อถึงระยะเวลาหนึ่งก็จะต้องหมดอายุไปตามธรรมชาติ ทำให้จำเป็นต้องพึ่งสารบางอย่างที่จะช่วยยืดอายุการใช้งานของสกินแคร์ให้อยู่ได้ยาวนานมากยิ่งขึ้นอย่าง พาราเบน คือ หนึ่งซึ่งสารที่บางแบรนด์นำเอามาใช้ในการยืดอายุผลิตภัณฑ์ให้อยู่ได้ยาวนานมากยิ่งขึ้น ResiSKIN จะพามารู้จักเจ้าสารตัวนี้กัน ไปอ่านกันเลย!!! มารู้จัก พาราเบน คือ อะไรกันดีกว่า? พาราเบน (Paraben) เป็นสารชนิดหนึ่งที่ใช้ในการยืดอายุการใช้งานของสกินแคร์ เป็นหนึ่งในประเภทของสารกันเสียชนิดหนึ่ง ที่ถูกสังเคราะห์จากกระบวนการ "Esterification"เพื่อช่วยยืดอายุการใช้งานของผลิตภัณฑ์ พาราเบนเป็นสารที่มีราคาถูก แต่ให้ผลลัพธ์ในการยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อจุลินทรีย์ได้ดี จึงทำให้สารตัวนี้เลยมักจะไปอยู่ในผลิตภัณฑ์ต่างๆ พาราเบน อันตรายหรือไม่? พาราเบนเป็นสารที่ช่วยในการยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อจุลินทรีย์ต่างๆ ทำให้อายุการใช้งานของผลิตภัณฑ์ยาวนานขึ้น แต่ก็ต้องใส่ในปริมาณที่กำหนดไว้ ปริมาณของสารพาราเบนจะต้องไม่เกินกว่า 0. 25% หากเกินกว่านั้นอาจทำให้เกิดอันตรายต่อผู้ใช้ พาราเบนจะไปรบกวนการทำงานของฮอร์โมนที่เกี่ยวกับการสืบพันธ์ุทั้งฮอร์โมนเพศหญิงอย่าง และ ฮอร์โมนเพศชาย นอกจากนั้นสารพาราเบนยังอาจจะก่อให้เกิดความเสี่ยงต่อมะเร็งเต้านมในผู้หญิงอีกด้วย และ โรคอื่นๆ ที่จะตามมา โรคอ้วน โรคเกี่ยวกับระบบการเผาผลาญอาหาร ความหนาแน่นของกระดูก ความผิดปกติของพัฒนาการ ภาวะการมีบุตรยาก การแท้งบุตร คลอดก่อนกำหนด ความพิการแต่กำเนิด สเปิร์มไม่สมบูรณ์ โรคเรื้อรัง โรคมะเร็ง วิธีเลือกผลิตภัณฑ์ไม่ให้มีพาราเบน?