ใช้งานง่ายสามารถสร้างแก้ไขและเพิ่มเติมเนื้อหาได้อย่างสะดวก 2. สนับสนุนมัลติมีเดียได้อย่างดี นำสื่อในรูปแบบวีดีโอ ภาพเคลื่อนไหวแบบแฟลชมูวีและเสี่ยงมาใช้ เพื่อให้เห็นภาพทีสื่อความหมายได้ชัดเจนและช่วยสร้างความน่าสนใจเพิ่มมากยิ่งขึ้น 3. ประยุกต์สร้างงานได้หลากหลาย สามารถนำเสนองานไปประยุกต์ในงานรูปแบบต่างๆ เช่น ตู้ คีออสก์ เป็นตู้คอมพิวเตอร์นำเสนอข้อมูลหรือสำรับเล่นเกม 4. แสดงทั่งจอภาพและเอกสารสามารถนำเสนอข้อมูลบนหน้าจอภาพ และสั่งพิมพ์งานสไลด์ในรูปของเอกสาร 5. บันทึกไฟล์ในรูปแบบต่างๆ เช่น ไฟล์ชนิดรูปภาพ หรือไฟล์เว็บเพจ เพื่อนำเสนองานบน อินเทอร์เน็ต หรือ ไฟล์ชนิดอื่นๆได้ตามต้องการ
สามารถสร้างงานนำเสนอได้ แม้ว่าจะไม่เคยสร้างงานนำเสนอมาก่อน เนื่องจากจะมีระบบช่วยเหลือ( Office Assistant) ใน PowerPoint ซึ่งจะคอยแนะนำหลักการในการสร้างงานนำเสนออย่างเป็นขั้นตอน การเลือกสีมาใช้กับสไลด์ และจัดองค์ประกอบทางศิลป์ได้โดยอัตโนมัติ 2. ในส่วนการนำเสนอภาพนิ่ง สามารถที่จะนำองค์ประกอบมัลติมีเดีย เช่น การนำเอฟเฟค เสียง ดนตรีและวีดีโอ มาใช้ประกอบร่วมได้ 3. นอกจากสิ่งที่ได้เตรียมมานำเสนอแล้ว ยังสามารถใช้ PowerPoint เตรียมเอกสารประกอบคำบรรยายและในขณะที่มีการนำเสนองาน ก็สามารถใช้เมาส์วาดเส้นบนสไลด์ที่แสดงอยู่ในขณะนั้นเพื่อเน้นประเด็นสำคัญได้ 4. สามารถที่จะดัดแปลงงานนำเสนอที่เป็นไฟล์ PowerPoint เป็นสไลด์ 35 ม. ม. เพื่อใช้นำเสนอผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ต หรือเครือข่ายอินทราเน็ตภายในองค์กรได้ แนวทางการสร้างงานนำเสนอ การนำเสนอที่ดีควรทำอย่างเป็นขั้นตอน โดยเริ่มจากการวางโครงร่างของงาน จากนั้นจึงลงรายละเอียดและจัดทำสไลด์เพื่อนำเสนองานเป็นไปอย่างรวดเร็ว จึงควรทำตามขั้นตอนดังต่อไปนี้ 1. การวางโครงร่าง ก่อนเริ่มเตรียมงานนำเสนอ ควรมีความชัดเจนในสิ่งที่ต้องการนำเสนอ โดยศึกษากลุ่มผู้ฟังว่ามีลักษณะเช่นไร การเริ่มเตรียมงานนำเสนอโดยการวางโครงร่าง เป็นการถ่ายทอดความคิดของผู้นำเสนอเป็นแนวทางทำให้เกิดความชัดเจนเกี่ยวกับงานที่จะนำเสนอ ซึ่งจะช่วยให้ไม่พลาดหัวข้อสำคัญที่ต้องนำเสนอ นอกจากนั้นการวางโครงร่างยังเปรียบเสมือนแผนที่ในการดำเนินเรื่อง จะได้มีความมั่นใจว่าการนำเสนอผลงานนั้นได้ผลลัพธ์ตรงตามจุดประสงค์ที่วางไว้ 2.