วันนี้ซื้อหุ้นตัวไหนดี? เปิด 8 เรื่องควรรู้ก่อนลงทุนในตลาดหุ้น เพื่อเพิ่มโอกาสความสำเร็จ และลดความสูญเสียของเงินในกระเป๋า ความรู้เบื้องต้นในตลาดหุ้นจึงเป็นเรื่องสำคัญ การลงทุนในตลาดหุ้นแม้จะไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะตลาดหุ้นนั้นมีหลายปัจจัยที่อาจเข้ามากระทบและทำให้ราคาหุ้นผันผวนได้ตลอดเวลา แต่การลงทุนในตลาดหุ้นจะง่ายขึ้นถ้านักลงทุนเริ่มต้นทำความรู้จัก เรียนรู้ และทำความเข้าใจว่าโลกของการลงทุนนั้นเป็นอย่างไร ถ้าทำได้ก็ไม่ยากที่จะประสบความสำเร็จในระยะยาว วันนี้ควรซื้อหุ้นตัวไหน? มั่นใจเลยว่าถ้าซื้อหุ้นตัวนี้ ไม่มีทางที่จะเห็นราคาปรับลดลง? เป็นประโยคที่ได้ยินกันบ่อย ๆ หรือนักลงทุนอาจติดตามข่าวสารเพื่อจะได้ติดตามความเคลื่อนไหวของนักลงทุนรายใหญ่ว่ากำลังพูดถึงแนวโน้มของตลาดหุ้นอย่างไร ไม่เพียงเท่านั้นนักลงทุนบางคนอาจตัดสินใจซื้อหุ้นโดยไม่ได้ประเมินหรือวิเคราะห์รายละเอียดเลยด้วยซ้ำ โดยเฉพาะนักลงทุนมือใหม่ที่เพิ่งเข้ามาลงทุนในตลาดหุ้น ดังนั้น เพื่อเพิ่มโอกาสความสำเร็จ ลดความสูญเสีย จึงควรทำความรู้จักกับตลาดหุ้นในเบื้องต้นก่อน 1.
ขออภัย คุณเปิดเว็บไซต์ด้วยเบราว์เซอร์เวอร์ชันเก่า เพื่อการใช้งานอย่างสมบูรณ์ ขอแนะนำให้คุณใช้เว็บเบราว์เซอร์ Chrome 80+ Firefox 75+ Safari 13+ Microsoft Edge 18+ Opera 30+ คลิกที่ไอคอนเพื่อเลือกดาวน์โหลดเบราว์เซอร์เวอร์ชั่นล่าสุด
28 บ. (29/6/64) PE = 11. 95 เท่า, P/BV = 0. 91 เท่า บริษัท ทีทีดับบลิว จำกัด (มหาชน) หรือ Thai Tap Water ผู้ผลิตและจำหน่ายน้ำประปาให้กับการประปาส่วนภูมิภาค (กปภ. ) โดยการให้บริการครอบคลุมพื้นที่ อ. นครชัยศรี อ. สามพราน อ. พุทธมณฑล จังหวัดนครปฐม และ อ. เมืองสมุทรสาคร อ. กระทุ่มแบน จังหวัดสมุทรสาคร สำหรับบริษัทย่อยดำเนินการในเขต จ. ปทุมธานี ปัจจุบันราคาเฉลี่ยอยู่ที่ 11. 78 บ. (29/6/64) PE = 15. 48 เท่า, P/BV = 3. 27 เท่า บริษัท ซาบีน่า จำกัด (มหาชน) ออกแบบ ผลิต และจำหน่ายสินค้าชุดชั้นในสตรีที่ได้รับความนิยมมากในไทยรวมทั้งในแถบยุโรป จัดจำหน่ายสินค้าภายใต้เครื่องหมายการค้า sabina ปัจจุบันราคาเฉลี่ยอยู่ที่ 11. (29/6/64) PE = 24. 77 เท่า, P/BV = 3. 74 เท่า บริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หุ้นพื้นฐานดีที่หลายๆ คนอยากลงทุนเอาไว้ โดย BTS ประกอบธุรกิจ 4 ประเภทหลัก คือ 1) ธุรกิจระบบขนส่งมวลชน (รถไฟฟ้าบีทีเอสและรถโดยสารด่วนพิเศษบีอาร์ที) 2) ธุรกิจสื่อโฆษณา 3) ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ และ 4) ธุรกิจบริการ ปัจจุบันราคาเฉลี่ยอยู่ที่ 9. 37 บ. (29/6/64) PE = 26. 61 เท่า, P/BV = 2. 02 เท่า สำหรับการลงทุนในหุ้นให้ได้หุ้นพื้นฐานดีราคาถูก ผู้ลงทุนต้องเข้าใจเกี่ยวกับการทำธุรกิจของหุ้นนั้นๆ เพื่อประเมินถึงความสามารถในการเติบโตในอนาคต และเพื่อประเมินมูลค่าว่าควรเข้าซื้อหุ้นตอนไหนถึงจะได้หุ้นถูกโดยใช้อัตราส่วนทางการเงินมาช่วยเปรียบเทียบนั่นเอง
40 บ. (29/6/64) PE = 9. 28 เท่า, P/BV = 0. 85 เท่า บริษัท ส. ขอนแก่นฟู้ดส์ จำกัด (มหาชน) ผู้ผลิตและจำหน่ายอาหารแปรรูปจากเนื้อสัตว์รายใหญ่ของไทย แบ่งธุรกิจออกเป็น 6 ประเภทธุรกิจ ได้แก่ 1) ธุรกิจอาหารพื้นเมือง 2) ธุรกิจอาหารทะเล 3) อาหารขบเคี้ยวที่ทำจากเนื้อสัตว์ 4) อาหารแช่แข็งพร้อมรับประทาน และ พร้อมปรุง 5) ร้านอาหารประเภท quick service restaurant (qsr) และ 6) ฟาร์มเลี้ยงสุกร ปัจจุบันราคาเฉลี่ยอยู่ที่ 4. 70 บ. (29/6/64) PE = 13. 58 เท่า, P/BV = 1. 28 เท่า บริษัท อินทัช โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) ประกอบธุรกิจด้านการลงทุนในธุรกิจโทรคมนาคม สื่อ เทคโนโลยี และดิจิทัล แบ่งธุรกิจออกเป็น 3 สายธุรกิจหลัก ได้แก่ ธุรกิจสื่อสารโทรคมนาคมไร้สาย ธุรกิจดาวเทียมและธุรกิจต่างประเทศ และธุรกิจอื่นๆ ปัจจุบันราคาเฉลี่ยอยู่ที่ 65. 05 บ. (29/6/64) PE = 19. 08 เท่า, P/BV = 5. 73 เท่า บริษัท ควอลิตี้เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) ผู้ประกอบธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์เพื่อขายและให้เช่า บ้านพร้อมที่ดิน หน่วยในอาคารชุดพักอาศัย อาคารที่พักอาศัยให้เช่า (ธุรกิจเซอร์วิส อะพาร์ตเมนต์ โรงแรม) อาคารสำนักงาน รวมทั้งรับจ้างบริหาร และร่วมลงทุนในธุรกิจอื่นๆ ปัจจุบันราคาเฉลี่ยอยู่ที่ 2.
>>ในปี 2563 โลกเผชิญวิกฤตการณ์จากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ทำให้เงินเข้าไปหลบภัยในทองคำ จนให้ผลตอบแทนสูงที่สุดถึง 17. 1%ในช่วง 11 เดือนแรก ขณะที่น้ำมันให้ผลตอบแทนแย่ที่สุด -25. 7% ส่วนหุ้นไทยยังคง -10. 9% แล้วในปี 2564 จะลงทุนอะไรดี… ทุกเสียงเทคะแนนให้ "หุ้น" บล.
ยูโอบี เคย์เฮียน (ประเทศไทย) กล่าวว่า คาดการณ์บรรยากาศ (เซนติเมนต์) การลงทุนในตลาดหุ้นไทยเดือน ก. จะสดใสกว่าเดือน ม. ที่ผ่านมา โดยประเมินกรอบการเคลื่อนไหวที่ แนวรับ 1, 620-1, 637 จุด และ แนวต้าน 1, 680-1, 740 จุด ภายหลังตลาดรับรู้ปัจจัยลบจากที่เฟดจะขึ้นดอกเบี้ยและปรับลดวงเงินกระตุ้นเศรษฐกิจ (QE) ไปแล้วในเดือนแรกของปีนี้ นอกจากนี้ ยังมีปัจจัยบวกภายในประเทศจากการประกาศผลประกอบการของ บจ. ไตรมาส 4 ปี 2564 ที่คาดว่าจะดีขึ้นเมื่อเทียบไตรมาส 3 ปี 2564 ซึ่งถูกกระทบจากโควิด-19 รวมถึงฟันด์โฟลว์ที่มีแนวโน้มไหลเข้าต่อเนื่อง เพราะคาดการณ์เศรษฐกิจไทยและเศรษฐกิจกลุ่มประเทศอาเซียนปี 2565-2566 มีแนวโน้มดีกว่ากลุ่มประเทศพัฒนาแล้ว จูงใจนักลงทุนต่างชาติ ขณะที่ การลงทุน แนะนำหุ้นที่ถูกกระทบจากโควิด-19 แต่มีโอกาสฟื้นตัวในระยะข้างหน้า ได้แก่ กลุ่มธนาคารพาณิชย์ ธนาคารกสิกรไทย (KBANK) และ BBL กลุ่มอสังหาริมทรัพย์ บมจ. เอพี (ไทยแลนด์) (AP) บมจ. ศุภาลัย (SPALI) บมจ. เซ็นทรัลพัฒนา (CPN) และ LH และกลุ่มสินค้าโภคภัณฑ์ บมจ. ปตท. สำรวจและผลิตปิโตรเลียม (PTTEP) บมจ. บ้านปู (BANPU) และ บมจ. อินโดรามา เวนเจอร์ส (IVL) นายวีระวัฒน์ วิโรจน์โภคา ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.
ซีพี ออลล์ (CPALL) บมจ. แลนด์แอนด์เฮ้าส์ (LH) บมจ. โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ (BH) และ บมจ. ไทยออยล์ (TOP) ส่วนหุ้นขนาดกลางถึงเล็ก แนะนำ บมจ. ดิ เอราวัณ กรุ๊ป (ERW) และ บมจ. นอร์ทอีส รับเบอร์ (NER) ขณะที่ กระแสเงินลงทุน (ฟันด์โฟลว์) ของกลุ่มนักลงทุนต่างชาติที่ไหลเข้ามาซื้อสุทธิหุ้นไทยกว่า 1. 4 หมื่นล้านบาท ในเดือน ม. ค. สูงสุดในภูมิภาคนั้น นายชาญชัย กล่าวว่า มีโอกาสที่ฟันด์โฟลว์จะไหลเข้าตลาดหุ้นไทยต่อเนื่องในเดือน ก. โดยมีปัจจัยหนุนจากคาดการณ์การเติบโตของเศรษฐกิจในกลุ่มประเทศเกิดใหม่ (EMs) รวมถึงไทยปี 2565 ที่ดีกว่ากลุ่มประเทศพัฒนาแล้ว ถัดมา คือ คาดการณ์กำไร บจ. ปีนี้ที่คาดว่าเติบโต 11% สูงกว่าค่าเฉลี่ยของ บจ. ในตลาดหุ้นประเทศพัฒนาแล้วที่เติบโตต่ำกว่า 10% ความเคลื่อนไหวของราคาหุ้น (Price Performance) ที่ยังปรับขึ้นได้ช้า (แลกการ์ด) โดยปรับขึ้นเพียง 5% ก่อนโควิด-19 ขณะที่ตลาดหุ้นกลุ่มประเทศพัฒนาแล้วปรับขึ้นมากกว่า 10% และสุดท้าย คือ ธีมการลงทุนปี 2565 ที่ตลาดหุ้นทั่วโลกย้ายกลุ่มลงทุนมายังกลุ่มหุ้นคุณค่า (Value Play) ซึ่งเป็นกลุ่มที่มีน้ำหนักค่อนข้างสูงในตลาดหุ้นไทย อาทิ กลุ่มพลังงาน กลุ่มธนาคาร และกลุ่มค้าปลีก ฯลฯ นายกิจพณ ไพรไพศาลกิจ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์และนักกลยุทธ์ บล.
December 16th, 2020 • 4 minutes to read หุ้นน่าลงทุนระยะยาว การมองหา หุ้นน่าลงทุนระยะยาว เป็นสิ่งที่นักลงทุนหลายท่านให้ความสำคัญอย่างมาก ๆ เพราะ การลงทุนระยะยาว เป็นส่วนช่วยที่ทำให้เรามีความมั่นคงได้ในอนาคต แต่ด้วยความที่มีหุ้นที่น่าลงทุนระยะยาวอยู่หลายตัวมาก ๆ หลาย ๆ คนจึงอาจจะเลือกไม่ถูกว่า หุ้นตัวไหนน่าลงทุนระยะยาว ในบทความนี้ Moneywecan มีคำตอบมาฝากกันค่ะ แนะนำ 7 หุ้นที่น่าลงทุนระยะยาว ตัวไหนดี ตัวไหนโดน 1. หุ้นน่าลงทุนระยะยาว OSP หุ้น OSP หรือ หุ้นบริษัท โอสถสภา จำกัด (มหาชน) ผลิตและจำหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภค ได้แก่กลุ่มผลิตภัณฑ์หลัก คือ ผลิตภัณฑ์เครื่องดื่ม ของใช้ส่วนบุคคล และธุรกิจอื่น ๆ ซึ่งรวมถึงผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพ ผลิตภัณฑ์ลูกอม และธุรกิจให้บริการผลิตสินค้าและบรรจุภัณฑ์ ขณะนี้บริษัทมีการเน้นนโยบายการลดต้นทุนในชื่อโครงการ Fit Fast Firm และคาดว่าในปี 2563 นี้ จะสามารถลดต้นทุนได้มากกว่า 800 ล้านบาทเลยทีเดียว 2. หุ้นน่าลงทุนระยะยาว BEM BEM หรือ บริษัท ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) ในไตรมาส 4/2563 นี้บริษัทมีการเปิดเผยว่าจำนวนผู้ใช้บริการทางด่วนมีการฟื้นตัวดีอย่างต่อเนื่อง บริษัท ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด ยังมีโครงการเพิ่มเส้นทางส่วนต่อขยายของเส้นทางรถไฟฟ้าใต้ดินอยู่หลายสาย แม้ในปีนี้รายได้จากการใช้งานระบบรถไฟฟ้าใต้ดินจะลดน้อยลงเนื่องจากสถานการณ์โควิด-19 แต่บริษัทก็ถือเป็นผู้ให้บริการระบบขนส่งมวลชนที่ยังคงมีความต้องการใช้บริการอย่างต่อเนื่องเสมอ 3.
ลงทุนทุกครั้งต้อง Stop Loss วอร์เรน บัฟเฟตต์ มักจะบอกกฎการลงทุน 2 ข้อที่นักลงทุนคนอื่น ๆ ควรเคร่งครัด กฎข้อแรก คือ ห้ามขาดทุน กฎข้อที่สอง คือ อย่าลืมกฎข้อแรก เพราะหากลงทุนและเกิดความสูญเสียก็จะทำให้เงินลงทุนกลับมาเป็นเท่าเดิมได้ค่อนข้างยาก เช่น ซื้อหุ้น XYZ ที่ราคา 20 บาท สัปดาห์ถัดไปราคาปรับลดลง 14 บาท แสดงว่าขาดทุน 30% อย่างไรก็ตาม หากมีความมั่นใจว่าราคาหุ้นจะปรับขึ้นได้ และก็เป็นเช่นนั้นจริง ๆ เมื่อราคาหุ้นปรับขึ้นไป 30% ในสัปดาห์ถัดไป แต่เมื่อดูราคากลับอยู่ที่ระดับ 18. 20 บาท คำถาม คือ ช่วงที่หุ้นปรับขึ้น 30% ทำไมราคาหุ้นไม่กลับมาอยู่ที่ระดับเดิม คือ 20 บาท ดังนั้น หากต้องการประสบความสำเร็จจากตลาดหุ้น กฎกติกาที่ต้องปฏิบัติทุกครั้งเมื่อซื้อหุ้น คือ การหยุดขาดทุน (Stop Loss) 8.